ฤดูในประเทศฝรั่งเศส
วันพุธที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2561
ศาสนาและวัฒนธรรมฝรั่งเศส
ศาสนาและวัฒนธรรมฝรั่งเศส
นิกายโรมันคาทอลิก เป็นศาสนาของกลุ่มประชากรผู้ใช้ภาษาโรแมนซ์หรือภาษาละติน ยกเว้นโรมาเนีย ประชากรนับถือนิกายออร์โธดอกซ์ ประชากรกลุ่มภาษาอื่น เช่น ไอร์แลนด์ เบลเยียม เนเธอร์แลนด์ ออสเตรีย เช็ก สโลวัก ฯลฯ
3.2 นิกายโปรเตสแตนต์ เป็นศาสนาของกลุ่มประชากรในกลุ่มสแกนดิเนเวีย ฟินแลนด์ เอสโตเนีย ลัตเวีย เยอรมนี สหราชอาณาจักร3.3 นิกายออร์โธดอกซ์ เป็นศาสนาของประชากรในประเทศคาบสมุทรบอลข่านและยุโรปตะวันออก เช่น กรีซ บัลแกเรีย มาซิโดเนีย ยูโกสลาเวีย โรมาเนีย รัสเซีย ยูเครน ฯลฯ
วัฒนธรรมของฝรั่งเศสชาวฝรั่งเศสมีวัฒนธรรมการนอนกลางวัน จึงส่งผลให้ประเทศอาณานิคมของฝรั่งเศสชอบนอนกลางวันตามไปด้วย อย่างไรก็ตามในส่วนลึกของวัฒนธรรม คล้ายคลึงกับของอังกฤษและอิตาลีอยู่แล้ว ไม่สามารถแบ่งได้ชัดเจนเด่นชัด เช่น การจับมือ ภาษา เป็นต้น เนื่องจากชนพื้นเมืองเป็น ชนผิวดำ และสีผิว จึงได้วัฒนธรรมตามกันมา
ชาวฝรั่งเศสมีวัฒนธรรมการนอนกลางวัน
จึงส่งผลให้ประเทศอาณานิคมของฝรั่งเศสชอบนอนกลางวันตามไปด้วย
อย่างไรก็ตามในส่วนลึกของวัฒนธรรม คล้ายคลึงกับของอังกฤษและอิตาลีอยู่แล้ว
ไม่สามารถแบ่งได้ชัดเจนเด่นชัด เช่น การจับมือ ภาษา เป็นต้น
สิ่งที่ควรทำ – ไม่ควรทำ
1.คุณสามารถกล่าวทักทายว่าบงชู (Bonjour) ซึ่งหมายถึงสวัสดีตอนเช้า
หรือบงซัว (Bonsoir) ที่หมายถึงสวัสดีตอนเย็น
กล่าวลาเมื่อจะจากไปด้วยคำว่า โอ”เครอ”วัว (Au revoir) ที่แปลว่า ลาก่อน
และกล่าวขอบคุณว่า แม็กซิ (Merci) ได้
2. วิธีทักทายสำหรับคนที่รู้จักกันนั้นคือการแลกจูบแก้มซึ่งกันและกัน ไม่ว่าคู่ทักทายของคุณจะเป็นหญิงหรือชาย ตามงานพิธีต่างๆ ชาวฝรั่งเศสใช้วิธีชนแก้มกันทั้งสองข้าง (la bise) ว่ากันว่าชาวปารีสนิยมแนบแก้มกันถึง 4 ครั้ง ถ้าเป็นเมืองนอกเขตปารีสทำเพียง 2 ครั้ง
3. เมื่อไปรับประทานอาหารตามภัตราคารอย่าตะโกนเรียกบริกรว่า”การ์ซ็อง (garçon)” ที่ตรงกันกับภาษาอังกฤษว่า boy ซึ่งในภาษาฝรั่งเศสถือว่าไม่ สุภาพ ควรเรียกว่าเมอซิเออร์ และกล่าวคำว่า ซิล วู เปล ซึ่งแปลว่ากรุณา เวลาสั่งอาหารหรือขออะไรเพิ่มเติมจึงถือว่าสุภาพและควรถอดหมวก เสื้อคลุม โอเวอร์โค๊ดหรือแจ้กเก็ต เพื่อแสดงความเคารพต่อสถานที่ก่อนทุกครั้ง
4. สนามหญ้าในฝรั่งเศสมีไว้ให้ดูและชื่นชมความเขียวชอุ่ม ห้ามแตะต้องเด็ดขาด ยกเว้นตามสนามหญ้าที่เปิดเป็นสาธารณะ หากคุณละเมิดกฏเข้าไปในสนามหญ้าซึ่งมีป้าย pelouse interdite แปลว่า สนามหญ้าห้ามเข้า กำกับอยู่ ถือว่าคุณทำผิดกฏหมาย
5. เมื่อชาวฝรั่งเศสต้องการโบกมือลาเขาจะยกมือพร้อมกับขยับนิ้วขึ้นลง ๆ
6. รถแท็กซี่ในฝรั่งเศสนั่งได้ 3 คน เฉพาะที่ตรงด้านหลังคนขับเท่านั้นที่นั่งด้านขวามือข้างหน้าคู่กับคนขับ นั้น มักไว้ให้เป็นที่นั่งของสัตว์เลี้ยง
1.คุณสามารถกล่าวทักทายว่าบงชู (Bonjour) ซึ่งหมายถึงสวัสดีตอนเช้า
หรือบงซัว (Bonsoir) ที่หมายถึงสวัสดีตอนเย็น
กล่าวลาเมื่อจะจากไปด้วยคำว่า โอ”เครอ”วัว (Au revoir) ที่แปลว่า ลาก่อน
และกล่าวขอบคุณว่า แม็กซิ (Merci) ได้
2. วิธีทักทายสำหรับคนที่รู้จักกันนั้นคือการแลกจูบแก้มซึ่งกันและกัน ไม่ว่าคู่ทักทายของคุณจะเป็นหญิงหรือชาย ตามงานพิธีต่างๆ ชาวฝรั่งเศสใช้วิธีชนแก้มกันทั้งสองข้าง (la bise) ว่ากันว่าชาวปารีสนิยมแนบแก้มกันถึง 4 ครั้ง ถ้าเป็นเมืองนอกเขตปารีสทำเพียง 2 ครั้ง
3. เมื่อไปรับประทานอาหารตามภัตราคารอย่าตะโกนเรียกบริกรว่า”การ์ซ็อง (garçon)” ที่ตรงกันกับภาษาอังกฤษว่า boy ซึ่งในภาษาฝรั่งเศสถือว่าไม่ สุภาพ ควรเรียกว่าเมอซิเออร์ และกล่าวคำว่า ซิล วู เปล ซึ่งแปลว่ากรุณา เวลาสั่งอาหารหรือขออะไรเพิ่มเติมจึงถือว่าสุภาพและควรถอดหมวก เสื้อคลุม โอเวอร์โค๊ดหรือแจ้กเก็ต เพื่อแสดงความเคารพต่อสถานที่ก่อนทุกครั้ง
4. สนามหญ้าในฝรั่งเศสมีไว้ให้ดูและชื่นชมความเขียวชอุ่ม ห้ามแตะต้องเด็ดขาด ยกเว้นตามสนามหญ้าที่เปิดเป็นสาธารณะ หากคุณละเมิดกฏเข้าไปในสนามหญ้าซึ่งมีป้าย pelouse interdite แปลว่า สนามหญ้าห้ามเข้า กำกับอยู่ ถือว่าคุณทำผิดกฏหมาย
5. เมื่อชาวฝรั่งเศสต้องการโบกมือลาเขาจะยกมือพร้อมกับขยับนิ้วขึ้นลง ๆ
6. รถแท็กซี่ในฝรั่งเศสนั่งได้ 3 คน เฉพาะที่ตรงด้านหลังคนขับเท่านั้นที่นั่งด้านขวามือข้างหน้าคู่กับคนขับ นั้น มักไว้ให้เป็นที่นั่งของสัตว์เลี้ยง
ขนบธรรมเนียมและประเพณีของฝรั่งเศส
![French Greetings (the French kiss)](https://www.iam-tour.com/new/wp-content/uploads/2016/07/French-Greetings-the-French-kiss.png)
![Le Addition](https://www.iam-tour.com/new/wp-content/uploads/2016/07/Tipping-in-France.jpg)
1. French Greetings (the French kiss)
วิธีการทักทายของชาวฝรั่งเศสก็เป็นอย่างหนึ่งที่เพื่อนๆอาจรู้สึกไม่ชิน นอกจากการจับมือแล้ว การจูบกันด้วยแก้มทั้งสองข้างก็เป็นทักทายเช่นกัน หากเป็นเพื่อนสนิทจะจูบแก้มกันสามครั้งขึ้นไป แล้วแต่ธรรมเนียมของแคว้นนั้นๆ
2. Tipping in France
โดยปกติในฝรั่งเศสจะไม่นิยมให้ทิปกัน แต่สำหรับพนักงานที่ให้บริการดีแล้วเราพอใจอยากจะให้ทิป ก็สามารถให้ได้ แต่ควรจะให้อย่างต่ำ 1 ยูโรครับ ถ้าต่ำกว่านี้อย่าให้เลยดีกว่า เพราะจะดูน่าเกลียดแทนที่จะดูดี
3. French cuisine
คนฝรั่งเศสกินอาหารแบบเรียงตามลำดับหรือคอร์ส จบไปทีละคอร์ส โดยทั่วไปจะมี 3 คอร์สคือ entré, plate principal และ cheese course หรือ dessert ถ้าเสิร์ฟแบบเต็มยศก็เพิ่มอีกสามเป็น 6 คอร์สโดยเริ่มจาก aperitif หรือออร์เดิร์ฟ แล้วเป็น entré ซึ่งมักจะเป็นซุป ตามด้วยอาหารจานหลักที่เป็นเนื้อสัตว์ ต่อด้วยสลัดแล้วตามด้วยเนยแข็งสารพัดชนิด ปิดท้ายด้วยของหวานหรือผลไม้พร้อมกับกาแฟ ส่วนขนมปัง ไวน์ และน้ำแร่จะมีเสิร์ฟตลอดเวลาที่กินอาหาร
4. French etiquette at meals
คนฝรั่งเศสใช้มีดและส้อมในการกินอาหารเกือบทุกอย่าง ไม่เว้นแม้กระทั่งเฟร้นฟรายส์ โดยถือมีดด้วยมือขวา และมือซ้ายถือส้อม ไม่มีการเปลี่ยนมือไปมาเหมือนคนอเมริกัน และที่สำคัญจะต้องวางมือไว้บนโต๊ะ ไม่วางไว้บนหน้าตัก นอกจากนี้ยังมีมารยาทบนโต๊ะอาหารอื่นๆที่ควรต้องเรียนรู้อีกมาก
วิธีการทักทายของชาวฝรั่งเศสก็เป็นอย่างหนึ่งที่เพื่อนๆอาจรู้สึกไม่ชิน นอกจากการจับมือแล้ว การจูบกันด้วยแก้มทั้งสองข้างก็เป็นทักทายเช่นกัน หากเป็นเพื่อนสนิทจะจูบแก้มกันสามครั้งขึ้นไป แล้วแต่ธรรมเนียมของแคว้นนั้นๆ
2. Tipping in France
โดยปกติในฝรั่งเศสจะไม่นิยมให้ทิปกัน แต่สำหรับพนักงานที่ให้บริการดีแล้วเราพอใจอยากจะให้ทิป ก็สามารถให้ได้ แต่ควรจะให้อย่างต่ำ 1 ยูโรครับ ถ้าต่ำกว่านี้อย่าให้เลยดีกว่า เพราะจะดูน่าเกลียดแทนที่จะดูดี
3. French cuisine
คนฝรั่งเศสกินอาหารแบบเรียงตามลำดับหรือคอร์ส จบไปทีละคอร์ส โดยทั่วไปจะมี 3 คอร์สคือ entré, plate principal และ cheese course หรือ dessert ถ้าเสิร์ฟแบบเต็มยศก็เพิ่มอีกสามเป็น 6 คอร์สโดยเริ่มจาก aperitif หรือออร์เดิร์ฟ แล้วเป็น entré ซึ่งมักจะเป็นซุป ตามด้วยอาหารจานหลักที่เป็นเนื้อสัตว์ ต่อด้วยสลัดแล้วตามด้วยเนยแข็งสารพัดชนิด ปิดท้ายด้วยของหวานหรือผลไม้พร้อมกับกาแฟ ส่วนขนมปัง ไวน์ และน้ำแร่จะมีเสิร์ฟตลอดเวลาที่กินอาหาร
4. French etiquette at meals
คนฝรั่งเศสใช้มีดและส้อมในการกินอาหารเกือบทุกอย่าง ไม่เว้นแม้กระทั่งเฟร้นฟรายส์ โดยถือมีดด้วยมือขวา และมือซ้ายถือส้อม ไม่มีการเปลี่ยนมือไปมาเหมือนคนอเมริกัน และที่สำคัญจะต้องวางมือไว้บนโต๊ะ ไม่วางไว้บนหน้าตัก นอกจากนี้ยังมีมารยาทบนโต๊ะอาหารอื่นๆที่ควรต้องเรียนรู้อีกมาก
ชุดประจำชาติฝรั่งเศส
![Marie Antoinette](https://www.iam-tour.com/new/wp-content/uploads/2016/07/Costume-national-2.jpg)
![Costume national](https://www.iam-tour.com/new/wp-content/uploads/2016/07/Costume-national.jpg)
ผู้ชายจะสวมวิกที่เรียกว่า Cadogan (กาโดกอง) มีม้วนเป็นหลอดอยู่สองข้าง
รูปทรงของหมวกและการผูกผ้าพันคอของผู้ชาย สวมเสื้อคลุมยาวปิดสะโพก
นุ่งกางเกงรัดขา ใส่ถุงเท้ายาว เสื้อชั้น ในเป็นเชิ้ต
มีจีบระบายที่อกและแขน มีเสื้อตัวสั้น ทับก่อนใส่เสื้อคลุม
ผู้หญิง เป็นเสื้อรัดรูป คอลึก ชุดมีลูกไม้และริบบิ้น รูปทรงกระโปรงบานในลักษณะวงกลม มีโครงในกระโปรงเรียกว่า Doble Panmiers (โดเบลอ ปองมิเยร์) ตกแต่งเป็นผ้าต่วนไหมและกำมะหยี่ กระโปรงจะมีผ่าหน้าและยกหยัก รั้งด้านข้าง ทั้ง 2 ข้างขึ้น ไปพองอยู่ด้านข้าง 2 ข้าง ด้านหลังด้วยการจับจีบเดรฟ มีโครงกระโปรงที่เรียกว่า สุ่มไก่ ทำด้วยโลหะสามารถกางและหุบได้ ทรงผมประดับด้วยไข่มุก ขนนก และดอกไม้
ผู้หญิง เป็นเสื้อรัดรูป คอลึก ชุดมีลูกไม้และริบบิ้น รูปทรงกระโปรงบานในลักษณะวงกลม มีโครงในกระโปรงเรียกว่า Doble Panmiers (โดเบลอ ปองมิเยร์) ตกแต่งเป็นผ้าต่วนไหมและกำมะหยี่ กระโปรงจะมีผ่าหน้าและยกหยัก รั้งด้านข้าง ทั้ง 2 ข้างขึ้น ไปพองอยู่ด้านข้าง 2 ข้าง ด้านหลังด้วยการจับจีบเดรฟ มีโครงกระโปรงที่เรียกว่า สุ่มไก่ ทำด้วยโลหะสามารถกางและหุบได้ ทรงผมประดับด้วยไข่มุก ขนนก และดอกไม้
สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในฝรั่งเศส
สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในฝรั่งเศส
หอไอเฟล (La Tour Eiffel) หอไอเฟล
สิ่งที่เรียกได้ว่าเป็นสัญญลักษณ์ของฝรั่งเศสซึ่งเป็นที่รู้จักกันไปทั่วโลก
เป็นหอคอยโครงสร้างเหล็กหนึ่งในสิ่งก่อสร้างที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกอีกด้วย
ตั้งอยู่บนถนนชองป์ เดอ มารส์ บริเวณแม่น้ำแซน
ซึ่งตั้งชื่อตามสถาปนิกผู้ออกแบบชื่อ "กุสตาฟ ไอเฟล" สร้างเสร็จในปี ค.ศ.
1889 ประตูชัย (Arc de triomphe de l'Étoile)
ประตูชัยเป็นส่วนหนึ่งของ "แนวเส้นตรงทางประวัติศาสตร์" (L'Axe historique) ซึ่งเป็นถนนเส้นตรงจากสวนพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ไปยังชานเมืองปารีส สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1806 ออกแบบโดยฌอง ชาลแกร็ง โดยออกแบบเป็นภาพของยุวชนเปลือยชาวฝรั่งเศส ที่กำลังต่อสู้กับทหารเยอรมันซึ่งเต็มไปด้วยเคราและใส่เกราะ เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานในการปลุกแรงใจของชาติสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1
ถนน ชองป์ส เอลิเซ่ (Avenue des Champs-Élysées)
แอวะนู เดส์ ชองป์ส เอลิเซ่ เป็นถนนที่สวยงามซึ่งอยู่ในเขตที่ 8 ของกรุงปารีส เป็นย่านการค้าที่ประกอบด้วยโรงละคร คาเฟ่ และร้านค้าหรูหรา สองข้างทางมีต้นเชสต์นัตที่ได้รับการตกแต่ง อย่างสวยงามปลูกเรียงรายได้รับการขนานนามว่าเป็นถนนที่สวยที่สุดในโลก
พระราชวังแวร์ซายส์ (Château de Versailles)
เป็นพระราชวังที่มีความสวยงามมากเป็นอันดับต้นๆของโลก สร้างขึ้นโดย พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส เมื่อปี ค.ศ. 1661 โดยช่างสถาปนิก อัลเดรด เลอ นอสเตอร์ เป็นผู้ออกแบบ ซึ่งใช้เวลาในการสร้างถึง 30 ปี มีนักท่องเที่ยวไปชมความงามไม่น้อยกว่า 1 ล้านคน ต่อปี
พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ (Musée du Louvre)
พิพิธภัณฑ์ศิลปะระดับโลกที่เก่าแก่ ใหญ่โต และมีชื่อเสียงเป็นอย่างมากแห่งหนึ่งของโลก ตั้งอยู่ในกรุงปารีส เป็นสถานที่ที่จัดแสดงและเก็บรักษาผลงานทางศิลปะที่ทรงคุณค่า ระดับโลกเป็นจำนวนมาก เช่น ภาพเขียนโมนาลิซา, The Virgin and Child with St. Anne, Madonna of the Rocks ผลงานของเลโอนาร์โด ดาวินชี เป็นต้น
มหาวิหารโนตเรอดาม (Cathédrale Notre Dame de Paris)
เป็นมหาวิหารในสมัยกอธิค ( Gothic ) เป็นวัดที่สวยงามที่สุดในสิ่งก่อสร้าง ยุคกอธิคแบบฝรั่งเศส วัดนี้ได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์โดยเออแชน วียอเลต์-เลอ-ดุค ผู้เป็นสถาปนิกคนสำคัญที่สุดคนหนึ่งของฝรั่งเศส ปัจจุบันมหาวิหารก็ยังถูกใช้เป็นวัดของนิกายโรมันคาทอลิกและ เป็นที่นั่งของอาร์ชบิชอปแห่งปารีส
รถไฟความเร็วสูง TGV
รถไฟ TGV เป็นความสำเร็จทางเทคโนโลยีที่ฝรั่งเศสภาคภูมิใจด้วยสมรรถนะความเร็วที่สูง ถึง 300 กม./ชม. ดังนั้นการเดินทางโดย TGV นอกจากจะตรงเวลาและสะดวกสบายแล้ว ยังปลอดภัยและสามารถประหยัดเวลาเดินทางจากปารีสไปยังเมืองสำคัญต่างๆ ของฝรั่งเศสได้เป็นอย่างดี หากมีโอกาสได้เดินทางไปฝรั่งเศสแล้วก็ไม่ควรพลาด
ล่องเรือเพื่อเที่ยวชมเมืองปารีส หรือบาโต มูช (Bateaux Mouches)
คือการล่องเรือเพื่อเที่ยวชมเมืองปารีส เป็นที่นิยมมาก เรือมีที่นั้งเยอะและจะมีบริเวณที่เปิดและปิดหลังคาให้เลือกนั่งได้ ใช้เวลาในการชมเมืองประมาณ 1 ชั่วโมง โดยจะล่องน้ำไปตามแม่น้ำแซนเพื่อชมสถานที่ที่สวยงามมากมายในปารีส เช่น หอไอเฟล, มหาวิหารนอร์ทเทอดาม, สะพานอเล็กซานเดอร์ที่ 3 และ พิพิธภัณฑ์ลูฟ เป็นต้น ดังนั้น การมาล่องเรือ บาโต มูช เป็นอีกกิจกรรมหนึ่งสำหรับคนที่มาเที่ยวฝรั่งเศสจะต้องไม่พลาด
ประเทศฝรั่งเศส
ประเทศฝรั่งเศส
ชื่อทางการ สาธารณรัฐฝรั่งเศส ( République Française)
พรมแดน ติดกับประเทศเบลเยียม ลักเซมเบิร์ก เยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ อิตาลี โมนาโก อันดอร์ราและสเปน
ภูมิประเทศ มีศูนย์กลางตั้งอยู่ในภูมิภาคยุโรปตะวันตก พื้นที่ประมาณสองในสามเป็นที่ราบ เทือกเขาที่สำคัญได้แก่ เทือกเขาแอล์ปซึ่งมียอดเขาที่สูงที่สุดในยุโรป คือ ยอดเขามงต์บลองก์ (Mont-Blanc) สูง 4,807 เมตร ประเทศฝรั่งเศสมีชายฝั่งทะเลอยู่ถึง 4 ด้าน (ทะเลเหนือ ช่องแคบอังกฤษ มหาสมุทรแอตแลนติกและทะเลเมดิเตอร์เรเนียน)
ภูมิอากาศ มี 3 แบบคือ แบบชายฝั่งทะเลตะวันตก (บริเวณตะวันตกของประเทศ) แบบเมดิเตอร์เรเนียน (ทางตอนใต้ของประเทศ) และแบบภาคพื้นทวีป (ทางตอนกลางและภาคตะวันออกของประเทศ)
ภาษาที่ใช้ ภาษาฝรั่งเศส
การปกครอง ระบอบประชาธิปไตย แบบสาธารณรัฐเดี่ยวกึ่งประธานาธิบดี โดยมีประธานาธิบดีเป็นประมุข
เมืองหลวง ปารีส
พื้นที่ รวม 632,834 ตร.กม. นับเป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรปตะวันตก (ประมาณเกือบหนึ่งในห้าของพื้นที่ของสหภาพยุโรป) อีกทั้งยังมีพื้นที่ชายฝั่งทะเลที่กินอาณาบริเวณกว้างขวาง
สกุลเงิน ยูโร (EUR) โดย 1 EUR ประมาณ 40 บาท
ประชากร ประมาณ 64 ล้านคน
เวลา Daylight Savings time เริ่มตั้งแต่สิ้นเดือนมีนาคม จนถึงสิ้นเดือนตุลาคม โดยเริ่มตั้งแต่คืนวันอาทิตย์สุดท้ายของเดือนมีนาคม เวลา 02.00 น. ใช้เวลา GMT+2 ซึ่งช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง และตั้งแต่คืนวันอาทิตย์ สุดท้ายของเดือนตุลาคม เวลา 03.00 น. ใช้เวลา GMT+1 ซึ่งช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง
รหัสโทรศัพท์ 33
ประเทศฝรั่งเศสนั้น เป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุดในกลุ่มสหภาพยุโรป อักทั้งยังเป็นประเทศที่เก่าแก่ และเป็นต้นกำเนิดของศิลปวิทยาการต่าง ๆ โดยเฉพาะเป็นประเทศต้นกำเนิดแห่งศิลปะการก่อสร้างแบบโกธิค ซึ่งในเวลาต่อมาก็มีการแพร่หลายไปทั่วทั้งยุโรป ประเทศฝรั่งเศสถูกจัดให้เป็นประเทศที่พัฒนาแล้วและมีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับที่ 6 ของโลก และยังเป็นประเทศที่มีนักท่องเที่ยวมากที่สุดในโลก นอกจากนี้ ประเทศฝรั่งเศสยังเป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียงในด้านของวงการแฟชั่นระดับโลก ส่วนในด้านการศึกษานั้น ประเทศนี้ก็เป็นประเทศที่มีมาตรฐานการศึกษาในระดับแนวหน้าประเทศหนึ่งของโลก ซึ่งมีสถาบันที่มีชื่อเสียงหลายต่อหลายแห่งและเป็นที่ยอมรับของนานาประเทศอีกด้วย
Tour de France
ตูร์เดอฟร็องส์ (ฝรั่งเศส: Tour de France หมายถึง การท่องฝรั่งเศส) หรือบางครั้งเรียกว่า ลากร็องด์บุกล์ (La Grande Boucle) และ เลอตูร์ (Le Tour) เป็นการแข่งขันจักรยานทางไกลรอบประเทศฝรั่งเศส ซึ่งจัดขึ้นเป็นเวลา 3 สัปดาห์ในช่วงเดือนกรกฎาคมของทุกปี เริ่มจัดขึ้นตั้งแต่ ค.ศ. 1903 จนถึงปัจจุบัน (เว้นการจัดแข่งขันในช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่งและสอง)
ตูร์เดอฟร็องส์ เป็นการแข่งขันจักรยานที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก
เป็นการแข่งขันจักรยานทางไกลหนึ่งในสามรายการใหญ่ที่จัดการแข่งขันในยุโรป รวมเรียกว่า แกรนด์ทัวร์ โดยอีกสองรายการคือ
- จีโรดีตาเลีย (Giro d'Italia) จัดในอิตาลี ช่วงเดือนพฤษภาคม-ต้นมิถุนายน
- บูเอลตาอาเอสปัญญา (Vuelta a España) จัดในสเปน ช่วงเดือนกันยายน
การแข่งขันครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1903 เกิดขึ้นเนื่องจากการท้าทายกันทางหน้าหนังสือพิมพ์ฝรั่งเศสชื่อ โลโต้ (L'Auto)
มีนักแข่งเข้าร่วมจำนวนถึง 60 คน แต่สามารถเข้าเส้นชัยได้เพียง 21 คน
ซึ่งกิตติศัพท์ของความยากลำบากในการแข่งขัน ทำให้การแข่งขันนี้เป็นที่สนใจ
และมีผู้ชมการแข่งขันช่วงสุดท้ายในกรุงปารีส ตามสองฟากถนนระหว่างทางราว 100,000 คน และกลายเป็นประเพณี ที่การแข่งขันทุกครั้งจะไปสิ้นสุดที่ประตูชัย จตุรัสเดอเลตวล ปารีส
ในปี ค.ศ. 1910 เริ่มมีการจัดเส้นทางแข่งขันเข้าไปในเขตเทือกเขาแอลป์ ปัจจุบันเส้นทางการแข่งขันจะผ่านทั้งเทือกเขาแอลป์ ทางตะวันออก และเทือกเขาพีเรนีสทางใต้ของฝรั่งเศส
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
passé composé
passé composé Le passé composé Le passé composé (อดีต) ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตและสิ้นสุดไปแล้ว เช่น ฉันได้รับจดหมาย = J’ai r...
-
10 เมนูที่ต้องลองเมื่อมาเที่ยวฝรั่งเศส written by Lalida Puengklai เมษายน 16, 2018 Also available in: English 日本語 한국어 E...
-
ประเทศฝรั่งเศส ชื่อทางการ สาธารณรัฐฝรั่งเศส ( République Française) พรมแดน ติดกับประเทศเบลเยียม ลักเซมเบิร์ก เยอรมนี ...